แอบแว่บไปเห็นเว็บบล็อกอื่น ๆ เขาโพสต์เอามาคุยกันใหญ่ว่าบล็อกของผมเป็นข่าวขึ้นหนังสือพิมพ์ด้วยนะ ไอ้ความที่ผมเคยเป็นนักข่าวเลยไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับมันเท่าไหร่ ใครจะเอาขึ้นก็ขึ้นไป คิดไปคิดมา เออเนอะ อยู่ ๆ Page Rank ผมมันก็ขึ้นมา 3 ทันที จากไม่เคยมีอะไรเลย เลยเอามาบอกเพื่อน ๆ ชาวบล็อกไว้ครับ (Page Rank ของผู้จัดการออนไลน์อยู่ที่ 7)
——————
ปฏิวัติไม่กระทบโลกออนไลน์ อีคอมเมิร์ชยังรุ่ง-กั้นเสรียาก
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 กันยายน 2549 17:29 น.
กลุ่มผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ไทยระบุการปฏิวัติไม่มีผลกระทบกับโลกออนไลน์ ธุรกิจอีคอมเมิร์ชจะยังคงเดินหน้าต่อไป การปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นทางอินเทอร์เน็ตทำได้ยาก แต่ยังคงต้องติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นจากการออกแถลงการณ์ให้กระทรวงไอซีทีเข้าดูแลการเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศคณะปฏิรูปฯอย่างใกล้ชิด
นายจักรพงษ์ คงมาลัย เว็บมาสเตอร์ jakrapong.com เชื่อว่าเหตุการณ์ปฏิวัติจะไม่ส่งผลกระทบต่อโลกออนไลน์ในแง่ของธุรกิจ เว้นเสียแต่คณะปฏิรูปฯจะเปลี่ยนแปลงกฏในการควบคุมดูแลเพิ่มเติมจากเดิม แต่ในแง่ของเสรีภาพเชื่อว่าจะกระทบกับอินเทอร์เน็ตตรงที่การปิดกั้นเสรีเท่านั้น
“การสั่งการให้กระทรวงไอซีทีควบคุมดูแลการเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศคือนโยบายเดียวที่ชัดเจนที่สุดในขณะนี้ ที่ผ่านมา อินเทอร์เน็ตนั้นให้ความอิสระเสรีเต็มที่ ทั้งในการรับและส่งข่าวสาร เชื่อว่ากระทบกับอินเทอร์เน็ตตรงที่การปิดกั้นเท่านั้น น่าจะไม่กระทบกับธุรกิจออนไลน์ อาจจะกระทบในแง่ดีด้วย กรณีเดียวกับที่ปัญหาน้ำมันแพงทำให้ธุรกิจออนไลน์รับผลดี”
นายจักรพงษ์แสดงให้เห็นถึงเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตที่ยังมีอยู่อย่างเหนียวแน่นแม้ในคืนที่มีแถลงการณ์ปฏิวัติ โดยยกตัวอย่างว่าชาวไทยที่ออนไลน์ในคืนประวัติศาสตร์ยังสามารถรับข่าวสารได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการยกเลิกการออกอากาศในฟรีทีวี
“เมื่อคืนสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีเต็มไปด้วยเพลงปลุกใจเพื่อให้ประชาชนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ประชาชนอยากดูข่าว มีเพียงอินเทอร์เน็ตเท่านั้นที่สามารถตอบความต้องการได้ อย่างเว็บไซต์ pawoot.com มีภาพถ่ายทหารและรถถังด้วยโทรศัพท์มือถือพร้อมรายงานสถานการณ์สด คืนเดียวคนเข้าเกือบหมื่นคน นี่แสดงให้เห็นว่าคนไม่ปิดกั้น ขอเพียงความจริง จะเป็นสื่อใดก็ได้ไม่ต้องเป็นทีวีหรือหนังสือพิมพ์อย่างเดียว การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทำได้เร็วมากบนโลกอินเทอร์เน็ต”
นายจักรพงษ์ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการปิดกั้นการรับข่าวสารจริงหรือไม่ แต่ชัดเจนว่ามีการมอบหมายให้กระทรวงไอซีทีเป็นผู้ดูแล สิ่งที่ต้องทำคือต้องติดตามดูว่าการควบคุมดูแลจะถูกตีความอย่างไร และในอนาคตข้างหน้ายังต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ สิ่งที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิดคือการเปลี่ยนสาระสำคัญของเนื้อหากฏหมายสิทธิสื่อมวลชน
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาด ดอท คอม จำกัด ประธานสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ให้ความเห็นว่าหากมีการปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารของประชาชนจริงจะเกิดเป็นคลื่นใต้น้ำ สื่อหลักถูกปิดแต่อินเทอร์เน็ตจะยังคงอยู่ เชื่อว่าการปิดเว็บไซต์ถึงจะทำได้จริงแต่ก็เป็นไปได้ยาก หรืออาจจะปิดได้เพียงเว็บไซต์หลักๆเท่านั้น และเมื่อปิดเว็บไซต์ในประเทศก็ยังมีช่องทางต่างประเทศอยู่
“โดยภาพรวม ผลกระทบเกิดขึ้นแน่ในแง่ของการถูกริดรอนสิทธิ แต่ในอีกมุมก็เชื่อว่าปิดไม่อยู่ ยังต้องรอดูก่อนว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าทางสมาคมจะมีแถลงการณ์ใดออกมา สิ่งที่น่าห่วงตอนนี้ก็คือเมื่อคนรู้ว่าควรจะใช้สื่อไหน คนในรัฐก็จะรู้ว่าควรจะปิดกั้นสื่อนั้นเช่นกัน”
“ส่วนผลกระทบในธุรกิจอีคอมเมิร์ชนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการปิดกั้นข้อมูลทางการเมือง คนละเลเยอร์กัน ส่วนการเมืองจะไม่มีผลโดยตรงกับอีคอมเมิร์ช เพราะบางรายก็ไม่เปิดเผยว่าเป็นธุรกิจสัญชาติไทย”
นายพงษ์ระพี เตชพาหพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มายด์คอนเนคชันส์ จำกัด ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ thaigoogleearth.com มองว่าการปฏิวัติน่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจออนไลน์ เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนของต่างชาติเพราะสถานการณ์การปฏิวัติของประเทศไทยต่างจากการปฏิวัติในประเทศอื่น ซึ่งขณะนี้วิถีชีวิตของชาวไทยโดยรวมเชื่อว่ายังอยู่ในสภาวะปกติ
“น่าจะดีถ้าเรื่องต่างๆจบลง เศรษฐกิจเดินหน้า แต่ต้องดูต่อไป โดยภาพรวมเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเร็ววัน หลังเลือกตั้งจะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อ ไม่มีชุมนุมยืดเยื้อ”
“ในภูมิภาคนี้ อินโด มาเลย์ ฟิลิปปินส์ พม่า จีน ทุกประเทศมีปัญหา ถามว่าฝรั่งจะลงทุนไหม ส่วนใหญ่ถ้าลงทุนแบบระยะสั้นก็ผ่านตลาดหลักทรัพย์ พวกนี้มาเร็วไปเร็วอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา แค่ช้อนหล่น พวกนี้ก็ย้ายเงินไปประเทศอื่นทันที ถ้าลงทุนแบบระยะยาว หากพวกนี้ศึกษาประเทศไทยจริงๆ เขาก็รู้ว่า การปฏิวัติเราไม่เหมือนกันพม่า ไม่เหมือนจีน หรืออินโด หรือมาเลย์ สุดท้าย ภาคประชาชนเข้มแข็งกว่า”
“คนไทยไม่ต้องสต็อกซื้อของมาเก็บไว้ในห้องใต้ดิน เราไม่ใช่ปากีสถานนะ เราเดินชอปปิ้งกันปกติ ชีวิตเป็นปกติ แค่แชร์ข่าวสารร่วมกัน คุยกันสนั่นเมืองแค่นั้น” นายพงษ์ระพีทิ้งท้าย
สำหรับความเคลื่อนไหวโดยรวมในโลกออนไลน์ขณะนี้ การที่ประชาชนนั้นติดตามสถานการณ์ยึดอำนาจผ่านอินเทอร์เน็ตมากมายกลับทำให้หลายเว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้เกิดความสับสนว่าเว็บไซต์ใดถูกปิดหรือเว็บไซต์ใดเกิดความบกพร่องในการเข้าใช้งานเท่านั้น แต่สำหรับเว็บไซต์ pantip.com ได้ประกาศปิดห้องราชดำเนิน ห้ามตั้งกระทู้การเมืองใดๆแล้ว
เว็บไซต์ pantip.com เว็บท่าชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่ให้เหตุผลในการปิดใช้งานห้องราชดำเนินเป็นการชั่วคราวว่าไม่สามารถควบคุมดูแลการตั้งกระทู้ได้ และขอร้องสมาชิกไม่ให้ตั้งกระทู้เกี่ยวกับการเมืองที่ห้องอื่น ๆ ด้วย โดยมีการชี้แจงต่อสมาชิกว่าขอให้สมาชิกทุกคนงดเขียนกระทู้เกี่ยวกับการเมืองโดยเด็ดขาด เพราะขณะนี้ประเทศไทยอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ซึ่งแม้สามารถเขียนได้แต่ท้ายที่สุดเว็บก็จะถูกปิดการใช้งาน
ส่วนเว็บไซต์หลายแห่ง เช่น sanook.com, kapook.com ได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาในหน้าแรกให้เป็นการเกาะติดสถานการณ์ล่าสุดและสรุปแถลงการณ์ของคณะปฏิรูปฯ
Company Related Links :
jakrapong.com
pawoot.com
thaigoogleearth.com
sanook.com
kapook.com
pr 3 เลยรึ
โอว…แจ่ม
ต้องเข้าไปเช็คที่นี่นะครับ ถึงจะเห็นว่า 3
contentmachine.blogspot.com
ท่าหากวาเราไม่ได้ดู astv สงใสเมืองไทยคงจะร่มจมไปนานแล้ว
แต่เราก็ต้องเสียเขาพระวิหารไปจนได้และทำไมจึงไม่เอาสมักออกไปจาเชาติของและพวกของทักษิณจนไปถึงตะกูลชิณวัฒแต่ก็อย่ลืมพวก
นปกไปด้วย
That’s 2 clvere by half and 2×2 clever 4 me. Thanks!
dStUSZ stqmdauogwlx