ภาพโดย Tricky
ผมเป็นพวกหนอนหนังสือครับ แต่ก็ต้องคอยระวังตัวเองอยู่บ่อยๆ เพราะถ้าเราเอาแต่อ่าน ไม่คิดตามและวิเคราะห์ปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเรา มันก็คงได้ประโยชน์น้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ในโลกนี้ก็ยังมีหนังสืออีกหลายต่อหลายเล่มที่อ่านเพลิน อ่านแล้วได้แง่คิด อ่านแล้วเอาไปใช้ได้จริงก็มีอยู่เยอะ แน่นอนว่าบางเล่มอ่านแล้วได้แรงบันดาลใจ มีแรงใจไฟฝัน และกระตุ้นให้เราเกิด “Passion” ชนิดนอนไปหลับ อยากคิดต่อไปอีกสามวันสามคืนก็มี
Passion นี่สำคัญนักหนาครับ ชีวิตนี้ถ้าหากว่าเราไม่มี Passion กับอะไรสักอย่างมันคงดูจืดชืดพิลึก แต่ก่อนจะพากันไปลึกกว่านี้ ขอทำความเข้าใจกันก่อนว่า คำว่า Passion ซึ่งผมแปลเป็นการส่วนตัวว่า “ความทะยานอยาก” เพราะไม่อยากแปลกันตรงตัวตามพจนานุกรมว่า “ตัณหา ราคะ” ดูแล้วเรามันกามๆ ยังไงชอบกล -_-‘
ความทะยานอยากนี่ผมว่ามันทำให้ชีวิตเรามีสีสันครับ คนเราลงว่าถ้ามีความฝัน และมีความทะยานอยาก มันก็เหมือนกับคุณรู้ว่าคุณกำลังจะบินไปอเมริกา ถ้าเราอยากบินไปเราจะต้องใช้เส้นทางไหน มันก็แล้วแต่ว่ามันเป็นฝั่งตะวันตกหรือฝั่งตะวันออก ถ้าตะวันตกก็ต้องบินจากกรุงเทพ ไปแวะเกาหลีที่สนามบินอินชอน แล้วต่อไปลงซานฟรานซิสโก หรือไป LA ถ้าไปฝั่งตะวันออกก็ต้องไปอีกแบบหนึ่ง แต่คุณก็จะรู้ว่าเป้าหมายมันอยู่ที่ไหน แล้วจะเดินทางไปอย่างไร ตรงนี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตนี้มีอะไรน่าค้นหา และน่าสนุก
เมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้ว สมัยที่ผมใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ มีสองสามีภรรยาไทยคู่นึง ชื่อคุณวรรณ กับคุณหมู ทั้งสองคนมีความฝันและ Passion อย่างแรงกล้าว่าอยากจะปั่นจักรยานรอบโลกให้สำเร็จ เมื่อตอนนั้นทั้งคู่ปั่นมาถึงเมืองที่ผมอยู่ด้วยอาการอ่อนล้า อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด หลังจากปั่นจากกรุงเทพฯ – มาเลเซีย – อินโดนีเซีย มาแล้ว และยังเหลืออีกหมื่นไมล์ พันไมล์ที่จะวนกลับไปถึงกรุงเทพฯ อีกที
นักปั่นทั้ง 2 คนพักที่บ้านผมอยู่ 3 คืน และเป็นช่วงที่ผมต้องเดินทางกลับไทยด้วย แต่ก่อนแยกทางกัน พี่วรรณ พี่หมูยื่นหนังสือมาให้ผมเล่มนึง พร้อมกับบอกว่า “อย่าลืมความฝันนะ ค่อยๆ ค้นหามันไป พี่ว่าปองทำได้ มี Passion กับอะไรก็ทำสิ่งนั้น” หนังสือที่ผมได้มาเล่มนั้นก็คือหนังสือที่ชื่อว่า “ไต่ฟ้ากระชากฝัน (Into Thin Air)” ทั้งสองคนบอกว่าได้มาจากอาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุลอีกที ตอนนี้อ่านจบแล้วอยากให้หนังสือเล่มนี้ให้ผมอ่านต่อ เอาไปฝัน เอาไปต่อแรงใจต่อไป
และท้ายที่สุดพี่ๆ เขาก็ทำได้ครับ ด้วยเวลา 5 ปี 11 เดือน ระหว่างทางนั้น ต้องเจอเรื่องดีเรื่องร้ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถูกปล้นจนหมดตัว เงินสปอนเซอร์ร่อยหรอ การสูญเสียคนที่รักในครอบครัว ล้วนแล้วแต่น่าท้อใจทั้งนั้น แต่ทั้งสองคนก็ไม่หวั่น เพราะทั้งสองคนรู้ว่าตัวเองมีความฝันอะไร Passion ของตัวเองคืออะไร …หนังสือมีหลายแบบ อ่านแล้วก็ได้กับตัวเอง อ่านเสร็จแล้วก็ส่งต่อให้คนอื่นด้วยก็ยิ่งดีครับ ใช้ชีวิตกันให้คุ้มแบบพี่ๆ ทั้งสองคนนี้ก็ดีครับ
เพราะชีวิตคนเราสั้นเกินไปที่จะบอกว่าน่าเบื่อ แล้วคุณล่ะ มีฝัน มี Passion อะไร ทำตามความตั้งใจนั้นได้หรือยัง?
ปล. มีบล็อกเกอร์เขียนถึงหนังสือเล่มนี้ด้วยนะครับ อ่านดูครับ