Young Webmaster Camp 6

เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อนผมมีโอกาสบินกลับไปพักร้อนที่เมืองไทย ช่วงที่พอว่างก็ไปร่วมงานกิจกรรมออกค่ายสอนน้องๆ ทำเว็บของสมาคมผู้ดูแลเว็บไทยที่ชื่อว่า “Inet Young Webmaster Camp” ซึ่งทางสมาคมฯ และผู้สนับสนุนที่น่ารักของเราคือ Inet ร่วมสนับสนุนพวกเราติดต่อมาเรื่อยๆ จนถึงครั้งที่ 6 แล้ว โดยมีน้องๆ ที่เป็นสมาชิก Young Webmaster Camp รุ่นก่อนๆ ร่วมกับกรรมการจัดกันที่มหาวิทยาลัยบูรพา ชลบุรีมาตั้งแต่ครั้งแรก

โครงการ Inet Young Webmaster Camp นั้นเราจะแบ่งรับน้องๆ ออกเป็นสี่สาขา 1. Web design 2. Web Programming 3. Web Content 4. Web Marketing ใครสนใจด้านไหนก็สมัครกันเข้ามา ปีนี้สมัครกันเข้ามาพันกว่าคน รับ 80 คน พอได้คนแล้วเราก็แบ่งกันไปเรียน แล้วเราก็มีวิทยากรมาแนะแนวทางให้น้องๆ ที่เข้าร่วมงาน

รวบรัดตัดความเลยว่า Young Webmaster Camp ครั้งที่ 6 จัดออกมาได้ดีมากครับ น้องๆ ที่มาร่วมงานครั้งนี้ก็แสดงผลงานได้เป็นที่พอใจ สนใจไอเดียแรงๆ ของน้องๆ กลุ่มนี้ก็ไปอ่านที่บล็อกของคุณ MacroArt ได้เลยนะครับ เขาเขียนไว้หมดแล้ว ผมไม่รู้จะเขียนซ้ำในประเด็นนี้ทำไม แต่ประเด็นที่ผมอยากจะเอ่ยถึงในวันนี้คือประเด็นของการคิดรูปแบบของเว็บที่น้องๆ ทำได้ดีอยู่แล้ว 90% แล้วล่ะ แต่ผมอยากได้สัก 95% ผมคิดอย่างนี้ครับ มาดูกัน…

Web Design – ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องของ Visual design ซะมากกว่า คือใครออกแบบโลโก้สวย ส่วนใหญ่จะดูดีไปเลย อาจจะเป็นเพราะเว็บสมัยนี้มีความเป็น platform ในตัวมันเองมากขึ้น มากกว่าการที่เว็บจะเป็น Media หรือพูดง่ายๆ ว่ามันเป็นเว็บที่ให้คนใช้งานได้ในตัวมันเอง เป็นบริการในตัวเองอยู่แล้ว เช่น เว็บบล็อก เว็บแลกของ เว็บสำหรับหาที่ฝึกงาน มากกว่าจะเป็นเว็บโบรชัวร์ หรือเว็บที่รวบรวมข่าว รวมลิงก์แบบสมัยก่อน ผมอยากให้น้องๆ กลุ่มนี้ลองศึกษาเรื่องของการทำ Usability มากขึ้น อยากให้อ่านหนังสือช่ื่อ “Don’t make me think!” ของสตีฟ ครัก ตอนนี้ภาษาอังกฤษมี 2nd edition ออกมาแล้ว อ่านไม่ยากด้วย ลองหาซื้อมาอ่านกันดูนะครับ อ้อ เล่มนี้มีแปลเป็นไทยด้วยนะครับ

Web Programming ผมเองไม่เก่งเรื่องเทคนิคเท่าไหร่ แต่เท่าที่สังเกตคือน้องๆ ใช้ภาษาใหม่ๆ พวก Ruby พวก Ajax ที่ทำให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากขึ้น และมีกลุ่มนักพัฒนาที่หลากหลายกว่าเดิม สมัยก่อนจะมีออกมาทาง PHP เป็นส่วนใหญ่ .Net มีไม่เยอะ คราวนี้มาเยอะกว่าเดิมมากๆ ทำให้ผลงานของน้องๆ มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

Web Content ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาน้องๆ ที่มาสาย Web content นั้นจะต้องเรียนรู้ในเรื่องระบบระเบียบของการเขียนให้ถูกหลักบรรณาธิกรเป็นหลัก ซึ่งจริงๆ แล้วคำว่า Content มันกว้างกว่านั้น จะบอกว่ารูปก็ใช่ จะบอกว่าวิดีโอก็ใช่ แต่สิ่งที่ปีนี้ทำได้ดีก็คือเรารู้ว่าเราจะทำอย่างไรให้เนื้อหาที่เราเขียนนั้นถูกค้นเจอได้ง่าย และทำให้ผู้ใช้อ่านได้สะดวก เพราะสายตาของคนอ่านออนไลน์จะไม่อึดเท่ากับคนอ่านหนังสือ

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ยังขาดก็คือ เราควรจะรู้เรื่องการจัดการ Content ให้มีความเกี่ยวเนื่องกับผู้ใช้ เช่น เราอยากจะทำเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวโปรโมทให้คนเที่ยวเยอะๆ เราก็ต้องบอกได้ด้วยว่าเราจะหาเนื้อหามาจากไหน คือ Content acquisition จะทำอย่างไร จะเขียนเองแล้วจะอัพเดทได้บ่อยแค่ไหน ต้องใช้เงินและเวลาเท่าไหร่ ผมเองอยู่สาย Web Content เต็มตัวเลยมีอะไรจะบอกกับน้องๆ ค่อนข้างเยอะ ส่วนบางกลุ่มอาจจะบอกว่า เดี๋ยวนี้มันยุคของ User Generated Content (UGC) แล้ว ไม่ต้องแคร์เรื่องระเบียบดังกล่าว แต่คนที่ชอบ UGC ก็ยังต้องคอยดูแลเรื่องของการจัดเก็บเนื้อหาด้วยนะครับ ว่าเนื้อหาที่อยู่ในเว็บนั้นถูกเก็บเป็นหมวดหมู่ไหม แล้วทำอย่างไรที่เราจะดึงให้คนมาสร้าง Content ชั้นดีให้กับเรา จะต้องสร้าง Community หรือเปล่า ฯลฯ

Web Marketing จากวันแรกที่ผมเจอๆ คือแลกลิงก์แลกแบนเนอร์ ลงโฆษณากับเว็บใหญ่ๆ หรือเว็บตามกลุ่มเป้าหมาย วันนี้ผมเห็นน้องๆ หัดทำ Search Engine Optimization ย่อๆ ว่า SEO (เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามีศัพท์สแลงว่า ‘ทำเสียว’) น้องๆ พรีเซนต์ถึงเรื่ีองการตลาดแบบปากต่อปาก (ที่ฝรั่งเขาเรียกซะเยอะแยะไปหมดอย่าง Buzz Marketing, Word of Mouth Marketing, Viral Marketing ฯลฯ) รวมถึงบอกต่อผ่านทาง Twitter และเว็บ Social Networking แต่ที่พลาดกันไปคือ บอกแต่ว่าอยากจะทำ SEO จะทำ WOM ซึ่งก็แค่นั้นเอง แต่ไม่ได้มาพรีเซนต์ว่าจะทำอย่างไร กลยุทธ์ในการทำเป็นอย่างไร อยากให้มีรายละเอียดมากกว่านี้ครับ แคมเปญการตลาดจะบอกแค่ว่าอยากทำนั่นทำนี่ไม่ได้ เราจะต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนกว่านี้สักหน่อยนะ

อย่างไรก็ดีภาพรวมในคราวนี้แม้ว่าจะมีจุดที่ผมยังขัดใจอยู่บ้าง รู้สึกไม่เติมเต็มในความรู้สึกอยู่บ้าง แต่ท่ามกลางจุดขัดจุดขาดเหล่านี้มันกลับมีเสน่ห์ลึกๆ ของมันอยู่ นั่นก็คือ ‘ความสด’ ของไอเดียใหม่ๆ ที่คนรุ่นผมมีน้อยกว่าน้องๆ ครับ

บางทีคนรุ่นพี่ๆ ก็อย่าชะล่าใจไป น้องๆ มันแซงแล้วจะหาว่าไม่เตือน