True Innovation Awards 2010

วันนี้จริงๆ ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่อยากเอาโครงการของที่ทำงานมาแชร์ในบล็อกตัวเองบ้าง เพราะเว็บที่ออฟฟิศมันแบ่งหลายหน้าไปหน่อย เอามารวมกันเป็นแกงโฮะแบบนี้ในแบบ Blog ด้วยภาษาง่ายๆ ตรงนี้ดีกว่า อ่านทีเดียวไม่ต้องคอยคลิกบ่อยๆ

True Innovation Awards 2010 หรือ TIA2010 จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สำนักงานข่าวต่างประเทศ CNBC เขาจัดกันขึ้นมาเพราะเขาอยากสร้างเวทีแห่งโอกาสให้กับนักคิด นักสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมของไทยครับ

ประเภทการประกวด
แบ่งประเภทการประกวด 2 ประเภท
1. IDEA SEED (เมล็ดพันธ์ความคิด)
เป็นการนำเสนอแผนธุรกิจนวัตกรรม ซึ่งไอเดียนวัตกรรม เป็นการสร้างแนวคิด ที่ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ ทั้งด้าน เทคโนโลยี การตลาด และ การลงทุน โดยแนวคิดนี้ อาจยังไม่ได้สร้างต้นแบบจริง หรือ อยู่ในช่วงทดสอบ <- ใครที่ไอเดียยังไม่กล้าแกร่ง มีเวลาน้อยผมแนะนำอันนี้
2. INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม)
เป็นการนำเสนอผลงานนวัตกรรม ซึ่งผลงานที่สร้างขึ้น ได้มีการสร้างขึ้นจริง และ มีโอกาสทางด้านธุรกิจ <- ใครที่มีโครงการอยู่ในมือแล้ว อยากหาช่องทางในการขยับขยายให้ใหญ่ขึ้น เป็นธุรกิจจริงจัง อันนี้เลยครับ

คุณสมบัติผู้เข้าแข่งขัน
บุคคลทั่วไป (เปิดกว้างสำหรับนิสิตนักศึกษา โดยใช้เกณฑ์การพิจารณาภายใต้มาตรฐานเดียวกัน)

คำว่านวัตกรรมกว้างเหมือนกัน ทางทีมงาน True Innovation Awards 2010 เลยจัดหมวดหมู่การประกวดตามนี้ครับ

1. Innovative Design (การออกแบบเชิงนวัตกรรม):
เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ในรูปแบบที่แปลกใหม่ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

2. Innovative Education System & Distance Learning (นวัตกรรมเพื่อการศึกษา):

เป็นเทคโนโลยีซึ่งสามารถทำให้คนศึกษาทางไกลได้ ผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องนั่งศึกษาภายในห้องเรียนอีกต่อไป

3. Green Innovation (นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม):

ในที่นี้หมายถึงผลงานใดๆที่จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การนำกลับมาใช้ใหม่ การใช้ซ้ำ ประหยัดและลดการใช้พลังงาน รวมถึงการนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างให้เกิดประโยชน์

4. IT & Computer Software (ซอฟแวร์นวัตกรรมเพื่อธุรกิจ):
นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมธุรกิจซอฟแวร์ เป็นผลงานที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และระบบซอฟแวร์ต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้กับเทคโนโลยีสื่อสารทุกรูปแบบ

5. Robot and Electronic devices (นวัตกรรมหุ่นยนต์และ เครื่องกล เพื่อทดแทนแรงงานของมนุษย์):


6. Telecom Innovation (นวัตกรรมการสื่อสารเพื่ออนาคต):

คือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารเคลื่อนที่ทุกชนิด

7. Mobile Application (แอพลิเคชั่นบนมือถือ):

สำหรับ smart phone (เช่น I-Phone, Black Berry และAndroid) การออกแบบและพัฒนา Application ใหม่บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตของเทคโนโลยี 3G สำหรับผู้ใช้ทั่วประเทศ

แล้วมีอะไรเป็นเกณฑ์ตัดสิน?

1. ระดับนวัตกรรม (Degree of Innovation)
ผลงานออกแบบเชิงนวัตรรมที่ได้รับรางวัลต้องเป็นแนวคิดใหม่ ในระดับโลก ระดับประเทศหรือ ระดับบริษัท
2. กลยุทธ์ด้านธุรกิจ (Business Strategy)
ผลงานเชิงนวัตกรรมต้องมีการนำเสนอร่างแผนธุรกิจ การวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจ และการประเมินความเสี่ยง
3. กลยุทธ์ด้านการตลาด (Market Strategy)
ผลงานเชิงนวัตกรรมต้องมีการศึกษาขนาด แนวโน้มและการเติบโตของตลาดในธุรกิจดังกล่าว
4. กระบวนการบริหารจัดการ (Management)
องค์กร หรือทีมที่ส่งผลงานการออกแบบเชิงนวัตกรรมต้องแสดงการบริหารจัดการองค์กร รวมทั้งการการจัดการองค์ความรู้ทั้งด้านการออกเชิงสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี ได้เป็นอย่างดี
5. การวางแผนการเงิน (Financial)
ระบุแผนการลงทุน การประเมินรายได้
รางวัล

สิทธิประโยชน์อื่นๆ
– ข้อเสนอพิเศษจาก บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในการทำธุรกิจร่วมกัน
– สิทธิพิเศษในการเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ และโครงการบ่มเพาะธุรกิจการสื่อสาร กับกลุ่มบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย
– เข้ารับการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ อาทิ เรื่องเทคนิคในการพัฒนาผลงาน แนวโน้มการตลาด
ผู้ได้รับการคัดเลือกจะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
– ได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิดชูเกียรติผ่านสื่อมวลชน
– ได้รับการสนับสนุนการต่อยอดผลงาน และ มีการฝึกอบรม พัฒนา
– ผลงานหรือผู้ได้รับการคัดเลือกมีโอกาสได้รับทุนสันบสนุนเพื่อต่อยอดออกสู่เชิง พาณิชย์ ตามกลไกและเงื่อนไขของทรู คอร์ปอเรชั่น

เริ่มประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม – 30 กันยายน 2553 สนใจสมัครเข้าประกวดได้เลยครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ Innovation Center โทร. 02-699-6368

อ่านสักนิดก่อนซื้อ iPhone 3G

สำหรับคุณผู้อ่านคอลัมน์ของผมในนิตยสาร Positioning เนื่องจากทางกอง บก. มีความจำเป็นต้องตัดข้อความบางส่วนออกไป ทำให้ดูไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ผมจึงเอาต้นฉบับที่สมบูรณ์มาไว้ให้อ่านกันที่นี่ ขออภัยด้วยนะครับ และขอขอบคุณ คุณ jetboat ไว้ที่นี้ด้วย

– – – – – – – – – –
iphone

ทันทีที่ทาง True ประกาศออกมาว่าจะเปิดขาย iPhone 3G ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มกราคม 2552 เชื่อว่าแฟนๆ สินค้าค่าย Apple คงตื่นเต้นกันน่าดู ผมเลยขอเอาประสบการณ์ของผมในการใช้ iPhone 3G ในรอบหลายเดือนที่สิงคโปร์มาแชร์กันที่นี่นะครับ เผื่อคุณผู้อ่านจะเอามาคิดต่อกันอีกทีว่าควรจะซื้อหรือไม่ควรซื้อ

เมื่อหลายเดือนก่อนผมบุกไปซื้อ iPhone 3G มาจากตึก Singtel (Singtel เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของสิงคโปร์) ด้วยราคา 500 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณหนึ่งหมื่นบาทเศษๆ และผูกพันสัญญาสองปีและต้องจ่ายรายเดือนๆ ละ 1,000 บาทโดยประมาณ ทาง Singtel เสนอแพลนที่ค่อนข้างโอเคมาให้ผม นั่นคือ SMS ฟรี 500 ข้อความต่อเดือน ฟรี GPRS 1GB และบริการเสริมอื่นๆ อีกเยอะเลย ณ ตอนนี้ผมใช้ iPhone 3G มาร่วม 4 เดือนเต็มๆ แล้ว ส่วนใหญ่เวลาเจอใครเขาก็จะถามกันว่า “เป็นไง iPhone 3G เวิร์คไหม?” สำหรับคนที่ไม่มีเวลาอ่านผมบอกได้คร่าวๆ ว่าจากประสบการณ์คนใช้ PDA, Smart Phone มาเกือบ 10 ปี ผมให้ 8/10 ครับ น่าซื้อมาใช้ครับ แต่น่าใช้อย่างไร มาดูกันเลยดีกว่า

คุณจะรัก iPhone 3G ถ้าหาก…

1. คุณชอบที่จะใช้อินเทอร์เน็ตทุกที่ทุกเวลา iPhone ตอบสนองความต้องการแทบทุกรูปแบบ บราวซ์เว็บต่างๆ ได้ไม่สะดุด เช็คเมล Yahoo! Mail, Gmail ได้คล่องถ้าเล่นเน็ตบนเครื่องมือถืออื่นๆ มันจะไม่สะดวกเท่ากับ Safari ใน iPhone ครับ ยิ่งระบบย่อภาพขยายภาพนี่แจ่มมากๆ แต่สำหรับเมืองไทย เนื่องจากเรายังลักลั่นอยู่ระหว่าง 2.5G กับ 3G ในแง่ของคนใช้งานแล้วผมว่าต้องให้บริการ 3G เปิดตัวแบบเป็นทางการแล้วจริงๆ ถึงจะเวิร์คนะครับ

2. คุณไม่ชอบที่จะเรียนรู้วิธีการเขียนของ PDA ระบบเก่า คุณไม่ชอบใช้ระบบ Word Recognition ของ Windows Mobile หรือ Graffiti ของ Palm Inc. อันนี้จริงๆ แล้วผมชินกับการเขียนบน PDA มาก แต่การใช้ Touch screen เป็นการป้อนตัวอักษรเข้าระบบก็ไม่ได้ทำให้ผมลำบากเท่าไหร่ แถมเวลาขอเบอร์เพื่อนๆ เพื่อนๆ ก็กดที่เครื่องของผมได้เลยไม่ต้องมานั่งงงว่ามันเขียนยังไง

3. คุณใช้ Mac คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จาก iPhone ได้เต็มที่ ผมใช้ Mac อยู่จะซิงก์กับ Windows Mobile ก็ไม่เวิร์คแล้วครับ

4. คุณหลงทางบ่อยๆ คุณไปไหนมาไหนชอบใช้ Map ใช้ GPS ประกอบการดูแผนที่ ล่าสุดผมไปใช้ที่ภูเก็ตมาแล้วเวิร์คมากครับ คือดูแผนที่เราแน่ใจว่าไม่หลงแน่ แต่เราอยากคอนเฟิร์มว่าตอนนี้เราอยู่ไหนแล้วแน่ๆ ก็ดีตรงที่ผมไม่ต้องไปซื้อพวก Garmin มาใช้ สบายดีครับ แต่ก็นะ มันเป็นแค่ Google Map พวก POI หรือ Point of interest ก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่

5. ความสามารถด้านมัลติมีเดีย เช่นการดูวิดีโอผ่าน Youtube พยากรณ์อากาศจาก Yahoo! ฟังเพลงแบบ iPod หรือใช้เป็นกล้องถ่ายรูป แม้ว่าเสียงของ iPod classic จะขับออกมาได้ดีกว่า iPhone แต่ผมก็ไม่แคร์ครับ เพราะ MP3 ยังไงก็ไม่เพราะเท่า CD อยู่แล้ว กล้องถ่ายรูป 2Mega Pixel เหมือนรุ่นอื่นๆ แต่ภาพก็ชัดมากนะครับ คุณภาพเลนส์ดีกว่า Smart Phone หลายๆ รุ่นครับ ส่วนวิดีโออันนี้แล้วแต่สัญญาณ 3G ครับ แต่ที่สิงคโปร์เวิร์คใช้ได้ครับ

ดูทั่วๆ ไปก็ดูเหมือนว่าซื้อ iPod Touch ดีกว่าไหมเพราะมันก็ไม่ได้ต่างกันมาก จริงๆ แล้วค่อนข้างต่างนะครับ เพราะ iPod Touch จะใช้กับ Wi-Fi ถ้าไปที่ไหนที่ไม่มีคลื่นนี่เสร็จกันเลย ถึงทาง True จะออกมาบอกว่าติดตั้ง Hot Spot ทั่วกรุงเทพฯ และคอนเวอร์เจนซ์ ซินเนอร์ยี่อะไรของเค้าก็เหอะ แต่ถ้า iPhone 3G ยังไง GPRS ก็ไปถึงครับ อย่างผมนี่ใช้ GPRS ได้เดือนละ 1GB ฟรี ก็เลยเล่นไม่ค่อยบันยะบันยังเท่าไหร่ และการพกพาอุปกรณ์ที่เป็นแบบ All-in-one ถ้าฟังก์ชั่นการใช้งานมันทำได้ดีพอสมควร มันก็น่าใช้ครับ ถ้าเทียบกับเครื่อง HTC ที่ผมเคยใช้เรียกว่า iPhone กินขาดในแง่รูปลักษณ์และฟังก์ชั่นเท่าที่จำเป็น

บางคนอาจจะบอกว่าไม่จริง เพราะตอนนี้ใครๆ ก็บอกว่ามีคู่แข่งของ iPhone ที่ดีกว่าออกมาตั้งเยอะ เช่น HTC รุ่นใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า G1 ที่จะมีระบบปฎิบัติการของ Google ผมเองก็ไม่เคยเห็นครับยังตอบไม่ได้เหมือนกันว่ามันจะดีกว่ายังไง บางคนบอก Samsung i900 ดีกว่าในแง่ของฟังก์ัชั่น ผมลองใช้แล้วก็ดีนะครับ เป็นมือถือ Windows Mobile ที่น่าสนใจทีเดียว แต่ ณ วันนี้ นาทีนี้ iPhone 3G ตอบโจทย์ผมเกือบทุกอย่างครับ ผมเป็นคนอินเทอร์เน็ต ชอบติดต่อสื่อสารตลอดเวลา เช็คเมลทุกที่ คือมันทำบนมือถือรุ่นอื่นๆ ก็ได้ครับ แต่มันไม่ลื่นไหลใช้ง่ายเท่ากับ iPhone ยิ่งถ้าคุณซื้อเครื่องถูกกฏหมายที่ไม่ต้องมานั่ง jailbreak กันแล้วยิ่งใช้งานง่ายใหญ่เลยครับ

อีกอย่างหนึ่งคุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดโปรแกรมอะไรมาใส่มากมายหรอกครับ เท่าที่มันมีอยู่ก็พอใช้งานแล้ว แต่นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน iPhone ต่างก็พากันพัฒนาแอพฯ ของตัวเองมาให้เราใช้กันสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น Yahoo!, Facebook, LinkedIn, eBay, Twitter, Google, etc. สรุปสำหรับเมืองไทย iPhone 3G มาถึงเมืองไทยอย่างเป็นทางการแล้ว เลิกเล่นเครื่องหิ้วกันเถอะครับ

ท้ายสุดเพื่อให้บทความนี้สมบูรณ์มากขึ้น เนื่องจากผมได้เขียนประสบการณ์ที่ค่อนข้างเอียงไปทาง iPhone 3G ไปแล้ว ผมเลยได้ขอความช่วยเหลือจากเซียนมือถืออีกท่านหนึ่ง คือคุณวรทรรศน์ วงษ์ไทย คอลัมนิสต์ด้านโทรศัพท์มือถือ หรือที่คนออนไลน์รู้จักกันในนาม Jetboat ขาใหญ่จาก Pantip.com ห้องมาบุญครองมาช่วยวิเคราะห์ เปรียบเทียบกับระบบปฎิบัติการ Windows Mobile ด้วยครับ

1. ส่วนตัวเชื่อว่า คนใช้ Windows กันเป็นหลัก ฉะนั้นพอจะปรับตัวมาใช้ Windows Mobile (wm) มันค่อนข้างง่ายกว่า
2. สำหรับ hardcore user wm ยังคงเป็นที่ลองวิชาได้ขนาดใหญ่ ในการปรุง rom แบบ customize ซึ่งเรื่องการปรุง rom พี่ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
3. wm ยังมีความได้เปรียบเรื่องการ input นิดนึง ทั้งเขียนแบบลายมือด้วย stylus / จิ้ม virtual keyboard คือมันยังมีทางเลือกให้คนทั้งใช้ได้ 2 แบบอยู่
4. ความสามารถ เรื่องพื้นฐานการเป็นโทรศัพท์ ณ ปัจจุบัน การใช้ Bluetooth แบบอิสระมากๆ /mms /การ copy & paste ข้อความ ที่แฟน iPhone ตะโดนตอบกลับมาดังๆ ว่า มันมีซอฟต์แวร์ใส่เพิ่มได้ แต่ถ้ามองในความเป็นจริง นี่มันคือคุณสมบัติ ขั้นพื้นฐานของโทรศัพท์มิใช่หรือ
5. ความเข้ากันได้ กับชุดออฟฟิศ…คนส่วนนึง ซื้อมันมาเพื่อใช้งานชุดออฟฟิศออนไลน์ ตราบใดที่ Microsoft ยังทำชุด Microsoft office ขาย… คนไทยยังใช้ office ด้วยความเคยชิน wm ก็ยังแข็งแรงด้วยเรื่องพวกนี้อยู่
6. คนที่จะกำเงินถอย iPhone 3G ได้..ใช้เงินกันคนละไม่ต่ำกว่า 2 หมื่น เพราะถูกผูกขาด แต่ในเมืองไทย เครื่องมือ 1 คุณสัมผัสประสบการณ์ของ wm ได้ด้วยที่ราคา 8-9 พันบาทเท่านั้น
7. ระบบความปลอดภัยเมื่อใช้งานกับองค์กร..ยอมรับกันเถอะว่า ระบบพวก mail server มันของใคร Microsoft ถูกมั้ย… wm 6.1 ชูจุดขายเรื่องการ encrypt เรื่องการเชื่อมต่อข้อมูล แต่ถ้าการเช็คเมลจาก web based ทั่วไป โอเค.. iPhone 3G สะดวกกว่าอยู่แล้วล่ะ แต่ความปลอดภัย นั่นคือเรื่องที่ต้องมาว่ากัน
8. ระบบความบันเทิง…ในราคาทีจ่ายเท่ากัน เครื่องที่ใช้ wm ความสามารถก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันสักเท่าไหร่ แต่การลากวางไฟล์เข้าออกเครื่อง wm ยังถือว่าสะดวกกว่าเยอะ เมื่อเทียบกับ iPhone 3G ที่ต้องพึ่งพา itune
9. wm ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ใช้ภาษาไทยเต็มรูปแบบ เพราะเรามีบริษัทที่พัฒนาระบบภาษาไทย แอพพลิเคชั่นภาษาไทย ที่มีรากฐานมาค่อนข้างนานอยู่ ในขณะที่ iPhone 3G เพิ่งทำความรู้จักภาษาไทยมาไม่นานนี้เอง (ทั้งที่มีขายในตลาดมืดเป็นแสนเครื่อง..)

– – – – – – –
เกี่ยวกับผู้เขียน
จักรพงษ์ คงมาลัย อดีตคนข่าวจาก manager.co.th และเว็บนิตยสารในเครือผู้จัดการอย่าง marsmag.net ที่ผันตัวเองเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตด้วยการสร้างเว็บไซต์คนไทยในต่างแดนทั้ง ในออสเตรเลียและสิงคโปร์ เคยร่วมพัฒนาสมุดหน้าเหลืองออนไลน์ กับบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย และเป็นอดีตรองเลขาธิการสมาคม ผู้ดูแลเว็บไทย ปัจจุบัน จักรพงษ์กำลังสนุกกับการร่วมงานกับบริษัทอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลกอย่าง Yahoo! ในตำแหน่ง Community Manager คุณสามารถติดต่อกับเขาได้ทาง jakrapong.com หรือ jakrapong@ymail.com