First publish on www.manager.co.th by Jakrapong Kongmalai (29 July 2004)
Revise by Jakrapong Kongmalai (30 April 2006)
ถ้าพูดถึงคนดังในแวดวงอีคอมเมิร์ซ เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก เจฟฟ์ เบโซส์ CEO และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดัง Amazon.com เป็นแน่แท้… วันนี้ผมมีทั้งเรื่องใหม่อัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในกิจการของเขา และเรื่องเก่าแบบมองต่างมุมของเขามาเล่าครับเริ่มจากเรื่องเก่าก่อนก็แล้วกันนะครับ เดี๋ยวค่อยอัพเดทเรื่องใหม่กัน
สืบจากคนรอบตัวในแวดวงดอทคอมเมืองไทย เจฟฟ์ เบโซส์ ในสายตาของหลาย ๆ คน ก็คือนักธุรกิจคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จจากการนำ Amazon.com เข้าตลาดหุ้นได้ในปลายทศวรรษที่ 90 ได้อย่างมีจังหวะจะโคนในช่วงที่เขากำลังประสบความสำเร็จ ตลาดกำลังฟูฟ่องไปด้วยฟองสบู่ดอทคอม หนังสือที่ออกมาขายในบ้านเราส่วนใหญ่ก็บรรยายแต่ความสำเร็จของเจฟฟ์ถึงความเป็น icon ของอินเทอร์เน็ตทั้งนั้น ไม่ค่อยเล่าถึงความลำบากลำบนของเขาก่อนที่จะร่ำรวย (จากหุ้น) เสียเท่าไหร่ จนกระทั่งฟองสบู่ดอทคอมแตกไปหลายปีแล้วก็ไม่ยักมีหนังสือประวัติการทำงาน (ที่อัพเดทหลังฟองสบู่แตก) ของเขาออกมา
แต่สิ่งหนึ่งที่จำได้ชัดเลยไม่ว่าดอทคอมจะ boom หรือ burst ก็คือเรื่องการ present ตัวที่แปลกแหวกแนวของเจฟฟ์ และรอยยิ้มที่เห็นบ่อยจนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวไปแล้วจากการรวบรวมประวัติของเขาจากหนังสือภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และเว็บไซต์ที่กล่าวถึงเส้นทางชีวิตของเขา เชื่อว่าเจฟฟ์เป็นคนที่มีบุคลิกภาพเชิงบวก เขาวางแผนการตลาดเว็บไซต์ผสมกับบุคลิกของเขาได้อย่างแยบยลเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพยายามเริ่มสร้างกิจการแบบ low profile จากโรงรถทั้งที่มีเงินจะไปทำงานในออฟฟิศก็ได้ เพื่อวันหนึ่งจะได้นำมาพูดกับสื่อมวลชนได้ว่ากิจการของเขาเริ่มต้นง่ายๆ มาจากโรงรถเล็กๆ แห่งหนึ่ง หรือแม้กระทั่งที่ประชุมของเขาก็คือร้านสตาร์บักสาขาที่ใกล้สำนักงานของเขาหรือแม้กระทั่งการเผยกับสื่อว่าเขาเขียนแผนงานลงในเครื่องคอมพิวเตอร์แลปท็อปเล็กๆ ตัวหนึ่งขณะนั่งรถไปกับภรรยาในรถเก่า ๆ ที่ได้มาจากที่บ้าน และการที่บอกกับคนอื่นว่าเขาไม่มีความทะเยอทะยานอะไรมากมายนัก ในตอนเริ่มก่อตั้งบริษัท เขาหวังเพียงว่าร้านหนังสือออนไลน์จะสามารถเจาะตลาดเล็ก ๆ ได้
ดูเหมือนมันจะติดดินดีนะครับ
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วกว่าจะก่อกำเนิดกิจการ Amazon.com มาได้เขามีประวัติการกู้เงินจำนวนมหาศาลนับล้านดอลล่าร์ทั้งจากญาติโกโหติกา จากธนาคาร จากการจำนองสินทรัพย์ จ้างทีมงานระดับเกรดเอแพงๆ และทุ่มเวลามากมายในการพัฒนาเว็บไซต์ ทดสอบการใช้งาน และต่อสู้กับคู่แข่งใหญ่ๆ อย่างบาร์นแอนด์โนเบิล ( bn.com ) ด้วยความแข็งแกร่ง แต่เขากลับแสดงมันออกมาให้ดูเหมือนว่า Amazon.com เป็นเรื่องง่ายๆ เป็นความฝันของคนหนุ่มคนใดก็ตามที่กล้าจะฉีกกฎเกณฑ์เก่า ๆ เข้าสู่ธุรกิจในโลกไซเบอร์
แต่เมื่อมองย้อนเข้าไปในประวัติของเจฟฟ์ ผมว่าเราก็สามารถทำความเข้าใจเขาได้มากยิ่งขึ้นเจฟฟ์จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับ Ivy League ของอเมริกาอยู่ เขาจบมาด้วยผลคะแนนอันยอดเยี่ยม เขาร่วมงานกิจกรรมกับมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ เขาผ่านงานด้านการเงินการลงทุน และด้านไอทีมาอย่างโชกโชน ล้มและลุกกับสิ่งที่เขาทำมานับไม่ถ้วน เป็นไปได้อย่างไรว่าคนที่มีความกระตือรือร้นในชีวิต มีทักษะในการวิเคราะห์การเงินการลงทุน และเชี่ยวชาญด้านไอทีจะมองตลาดง่าย ๆ หวังเพียงตลาดเล็ก ๆ อย่างที่พูด
ผมเลยมองว่าสิ่งที่เจฟฟ์พยายามบอกและถ่ายทอดง่าย ๆ เหล่านี้ค่อนข้างจะเป็นถ้อยคำทางการตลาดที่ส่งผลดีต่อตัวเขาและธุรกิจ มันแฝงไปด้วยความฉลาดแบบแปลก ๆ แต่ได้ผล เพราะจะว่าไปมันก็ส่งผลดีในการ “จุดประกาย” ให้กับคนหนุ่มสาวที่มองว่าธุรกิจดอทคอมสามารถเริ่มต้นได้ไม่ยาก และดูเป็นเรื่องของคนร่วมสมัยที่ดูสดใสร่าเริงแบบเจฟฟ์นี่ยังไม่รวมถึงวิธีการ present ตัวเองของเจฟฟ์กับพนักงานในบริษัทมักจะเล่าผ่านสื่อต่างๆ ว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยหากคุณต้องการจะจับมหาเศรษฐี CEO ธุรกิจพันล้านคนนี้มาเต้นแร้งเต้นกาอะไรสักอย่าง เพราะว่าเจฟฟ์ทำได้หมดจริง ๆ นับตั้งแต่จับเอาเขามาแต่งตัวเป็นกุ๊กในโรงแรมสี่ดาว เพื่อที่จะเอามาโปรโมทร้านเครื่องครัวของ Amazon.com
ไม่ใช่เรื่องยากหากคุณจะเห็นเจฟฟ์กระโดดขึ้นไปยืนแบบสุนัขบนโต๊ะประชุมเพื่อเรียกร้องความสนใจในการทำ business presentation หรือจับเอาเขามากระโดดตีลังกาถ่ายรูปขึ้นนิตยสารธุรกิจดัง ๆ รวมถึงการออกอาการหัวเราะร่วนแบบดังลั่น “กร๊ากกกก” ที่เขามักจะหัวเราะเสมอไม่ว่าบริษัทกำลังอยู่ในสภาพดีหรือร้ายแต่ก็ด้วยเสียงหัวเราะและความฉลาดเฉลียวแบบบุคลิกภาพเชิงบวกนี้ล่ะครับที่เป็นส่วนเล็กๆ ที่ส่งผลให้ Amazon.com อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้
อย่างน้อยก็เป็นเครื่องมือสร้างรอยยิ้มให้กับพนักงานในบริษัท อารมณ์ขันเป็นยาวิเศษของชีวิตจริง ๆ ครับ … พูดถึงบริษัทแล้วก็อัพเดทสถานภาพทางการเงินของ Amazon.com กันสักนิดนะครับล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม 2004 ที่ผ่านมา ทาง Amazon.com ก็ออกมาประกาศว่ายอดขายของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นถึง 26% แม้จะยังไม่ถึงเป้าที่คาดไว้โดยทีมงานได้กล่าวว่าพวกเขาคาดว่าจะขึ้นไปถึง 6.625 พันล้านดอลล่าร์ และ 6.925 พันล้านดอลล่าร์ อย่างไรก็ตามผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของบริษัทก็ออกมาเผยว่าทางบริษัทยังหวังที่จะทำกำไรสุทธิจริงในปีนี้จากการเปิดให้ผู้ค้าหนังสือบนอินเทอร์เน็ตรายย่อยขายหนังสือผ่านทางระบบของ Amazon.com และยอดขายในต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นถึง 50% แม้ว่าจะติดปัญหาเรื่องค่าขนส่งและอัตราแลกเปลี่ยนอยู่บ้าง
แต่สาเหตุหลักที่ยังไม่มีกำไรเห็น ๆ สักทีเห็นจะเป็นสาเหตุมาจากบริษัทต้องแบกรับภาระค่าสาธารณูการด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เมื่อมีผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนี้ว่าเมื่อไหร่ทางบริษัทจะชะลอการจ่ายเงินในส่วนนี้เพื่อเพิ่มส่วนต่างกำไรให้มากขึ้น เจฟฟ์ก็ออกมาพูดสั้น ๆ เพียงแค่ว่า “เล่ายังไงดีครับ เรื่องมันยาว” ทั้งนี้เนื่องจากนักวิเคราะห์หลายสำนักก็พากันมองว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้ยิ่งทำให้ Amazon.com ทำกำไรจริงได้ยากขึ้น อีกทั้งการแข่งขันในตลาดก็สูง จึงเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกินที่จะทำกำไรสุทธิได้จริง ๆ
ในเวลาที่ลำบากเช่นนี้ณ ตอนนี้เจฟฟ์อาจจะยังหัวเราะร่วน หรือกำลังหนักใจอยู่ที่ไหนสักแห่ง หรือมีแผนอะไรอยู่ในใจต่อไป สำหรับช่วงขาขึ้นของธุรกิจดอทคอมเราคงต้องติดตามกันต่อไป เพราะความเคลื่อนไหวของธุรกิจดอทคอมที่เชื่อมต่อธุรกิจทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้พรมแดน ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจดอทคอมบ้านเราอย่างแน่นอน
————————————–
ประวัติโดยสังเขป
เจฟฟรี่ เพรสตัน เบโซส์ (Jeffrey Preston Bezos)
เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม ปีค.ศ.1964 ปัจจุบันอายุ 40 ปี เติบโตในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซตันเมื่อปี 1986 ด้วยความฉลาดเฉลียวและผลการเรียนดีเด่น เขาได้รับการทาบทามจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เขาเพิ่มพูนประสบการณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าร่วมงานกับบริษัทด้านเงินทุนชื่อดังอย่าง ดี.อี. ชอว์แอนด์โค กับตำแหน่งรองประธานอาวุโสของบริษัทที่มีอายุเพียง 28 ปี
ในช่วงนั้นเองที่เขาพบว่าการสร้างร้านหนังสือออนไลน์เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด ควรค่าแก่การลงทุน แต่ผู้บริหารในบริษัทคิดต่างจากเขา จึงเป็นเหตุให้เขาลาออกจากบริษัท เริ่มต้นสร้างอนาคตของตัวเองกับ Amazon.com เมื่อปี 1994 ขณะนั้นเขามีอายุได้ 30 ปี
การออกเสียงคำว่า “Bezos”
บางคนอ่านนามสกุลของเจฟฟ์แบบตรงตัว เลยออกเสียงว่า เบ-ซอส แต่จากการสืบค้นชีวประวัติ พบว่าออกเสียงว่า เบ-โซส มาจากภาษาสเปน แปลว่าจุมพิต
ข้อมูลจาก..
– นิตยสาร Fortune – มิถุนายน 2546 จากเรื่อง “The Tao of Jeff – From dot-com joke to one click colossus – Winning the Amazon way”
– CBS.MarketWatch.com – 22 กรกฏาคม 2547
– The Internet Entrepreneure – กลยุทธ์ชี้ทางรอด 13 เจ้าพ่อดอทคอมระดับโลก โดย Christopher Price
(แปลโดย ณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล และ ดาว ไวรักษ์สัตว์)
– Amazon.com โดย Robert Spector (แปลโดยอาจกิจ สุนทรวัฒน์ และชัยฤทธิ์ เอี่ยมกมลา)