มีใครยังซื้อ CD ของศิลปินกันอยู่บ้างไหมครับ ที่เขียนมานี่ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าเลิกซื้อ CD กันเถอะ ไปซื้อ MP3 กันให้หมด ไม่ใช่นะครับ ผมคนนึงล่ะ ที่ยังอุดหนุน CD อย่างเหนียวแน่น ยิ่งศิลปินรายไหนที่ชอบมากๆ ผมจะซื้อแล้วก็เอามาเก็บใส่ iPhone คู่ใจไว้ฟังระหว่างทางไปทำงาน
ล่าสุดกลับไปเมืองไทยไปซื้ออัลบั้มใหม่ของพี่ๆ โมเดิร์นด็อก อัลบั้ม “ทิงนองนอย” เรื่องตัวเพลงไม่ต้องเป็นห่วงว่าระดับโมเดิร์นด็อกจะทำออกมาได้ขนาดแค่ไหน แต่วันนี้ผมอยากจะแชร์เรื่องการตลาดของวงการดนตรีมากกว่า (ใครสนใจเรื่องนี้ละเอียดๆ ติดตามได้ในนิตยสาร Positioning นะครับ ผมเขียนไปแล้วคิดว่าทางนิตยสารน่าจะเอาลงได้ในเดือนพฤศจิกายน) โดยเฉพาะในยุคที่ศิลปินจะต้องทำการตลาดด้วยตัวเอง เพราะค่ายเพลงอยู่ได้ลำบากมากขึ้น วงจรทางธุรกิจของวงการเพลงมันเปลี่ยนไปแล้วเพราะอินเทอร์เน็ตที่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้เท่าๆ กัน เราจะฟังเพลงเราแค่เข้าไปฟังจาก YouTube เพลงเราก็ดาวน์โหลดจากเว็บพวก Bittorrent หรือเพื่อนซื้อซีดีมา แล้ว burn แจกกัน แชร์ส่งกันทางเมลเป็น MP3
ในอัลบั้ม ทิงนองนอย นี้ผมเคยถามกับพี่ป๊อด (สมัยผมเป็นนักข่าวสัมภาษณ์พี่ป๊อดบ่อยๆ เลย เมื่อปีที่แล้วก็เคยเชิญพี่ป๊อดมาตั้งคำถามใน Yahoo! รู้รอบอยู่) ว่าเป็นไงบ้าง พี่ป๊อดบอกว่า “ไม่โครมครามเหมือนชุดก่อนๆ” ป๊อดอธิบายอย่างง่ายๆ ผมฟังแล้วก็เห็นด้วยครับ เพลงชุดนี้ทำ sound มาดีมาก แต่ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าพี่ป๊อดจะทำการตลาดด้วยตัวเองด้วยครับ
ทำยังไง มาดูกัน
– คราวนี้โมเดิร์นด็อก ไม่มีค่ายเพลงมาซัพพอร์ตทั้งนั้น แต่ตั้งบริษัทด้วยตัวเอง ชื่อว่า Moderndog Company Limited
– ลดต้นทุนทั้งหมด ไม่มีปกอัลบั้ม อยากได้อะไรให้เข้าไปที่ Moderndog.biz ซึ่งเป็นเว็บอย่างเป็นทางการของวง เปิดให้เราดาวน์โหลดเพลง “นิยาย” ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกได้ฟรี แลกกับการลงทะเบียนเพื่อให้ทางวงติดต่อเราได้
– ดูมิวสิควิดีโอทางเว็บ ไม่เน้นซื้อสื่อกระแสหลัก แต่เน้นโปรโมทผ่าน Hi5, MySpace ให้แฟนๆ add เป็นเพื่อนไว้
– ดูจากตารางทัวร์ โมเดิร์นด็อกเน้นออกทัวร์แทบทุกวัน และคอนเสิร์ตนั้นก็จะเป็นการโปรโมทสินค้าหรือบริการ เช่นตอนนี้ก็มีคอนเสิร์ตที่ได้ 100 Pipers, One-2-Call, มาม่า, โมโตโรล่า มาร่วมสนับสนุน
– ขายของที่ระลึกของวงในเว็บไซต์ (ตอนนี้ยังไม่มี กำลังจะมีเร็วๆ นี้)
– ขายเสียงเพลงรอสายทางโทรศัพท์มือถือ
– ให้แฟนๆ ดาวน์โหลด Wallpaper ฟรี เอาใจแฟนๆ
พูดง่ายๆ ก็คือในเมื่อ CD ขายลำบากแล้ว รายได้ที่จะมาก็จะมาจากการแสดงสด ของที่ระลึก โมเดิร์นด็อกก็ตั้งบริษัทเองแล้วรับรายได้เองเต็มๆ ไม่ต้องแบ่งค่ายเพลง ทางวงอาจจะมีผู้จัดการวงคอยช่วยเรื่องนี้ แล้วตัวเองก็เน้นเล่นดนตรีสด และทำการตลาดด้วยตัวเอง อย่างในเมืองนอกเดี๋ยวนี้ศิลปินก็ขายเพลงทาง iTunes, Amazon เองแล้วนะครับ แต่เมืองไทยยังไม่มีเว็บไหนที่ดังขนาดนั้น มีก็แต่
แกรมมี่ อาร์เอสพยายามทำอยู่ที่ Gmember.com กับ Zheza.com แล้วตัดเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือแปลงเพลงไปเป็น Mobile content
ผมว่าอีกไม่นานเราจะเห็นศิลปินทำการตลาดด้วยตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าแต่ศิลปินจะทำการตลาดออกมารูปแบบไหนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป
– – – – – – – – – –
ท้ายสุดขอประชาสัมพันธ์ให้กับคณะโมเดิร์นด็อกสักนิดนะครับ นั่นคือ คอนเสิร์ต “โมเดิร์นด็อกหรรษา ปาร์ตี้ทิงนองนอย by 100 Pipers” ซึ่งเป็นปาร์ตี้เปิดอัลบั้ม ทิงนองนอย ครั้งแรก ในแบบของโมเดิร์นด็อก ที่ โมเดิร์นด็อก จะมาพร้อม เพื่อนศิลปินมากมาย
Slot Machine , 7th Scene , Scrubb , Flure , Sqweez Animal , Apartmentkhunpa , สิงห์เหนือ เสือใต้ , เท็ดดี้สกาแบนด์ ,จุ๋ย จุ๋ย , โย่ง+ก้อย,จีน Futon & Friends และเหล่าดารา-ศิลปินร่วมเดินแบบอย่างคับคั่ง ในวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2551
เวลา 19:00 น. ที่ Zen Event Gallery ชั้น 8 ร่วมสนับสนุนความหรรษาโดย มาม่า, One2Call และ โมโตโรล่า ครับ
ถ้าคิดในแง่ดี ก็คือในอนาคตศิลปินน่าจะลดการพึ่งพิงค่ายได้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพิ่งได้ดูทีวีที่ไปเยี่ยมบ้านคุณบุรินทร์ Groove Riders … เขาบอกว่าอย่างเพลง “หยุด” ที่ดังมากๆ เขาบอกว่าไม่เคยส่งแผ่นไปตามสถานีวิทยุ ไม่เคยทำ MV แต่ค่อยๆ ดังในหมู่ผู้ฟังไปเอง จนวันนึงมันก็กลายเป็นเพลงฮิต
แล้วก็อีกเรื่องที่เป็นรายได้ให้กับวงอย่าง Groove Riders ก็คือการแสดงสด อย่างเดือนๆ นึงมีคอนเสิร์ตทั้งเล็กและใหญ่เกือบทุกวัน
การเปลี่ยนแปลงของวงการเพลง ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรเท่าไหร่กับนักดนตรีฝีมือจริงๆ และก็น่าจะเป็นผลดีต่อวงการเพลงด้วย เพราะน่าจะทำให้ศิลปินแบบฉาบฉวยค่อยๆ หมดไป
ประเด็นของคุณ Tum B. น่าสนใจมากครับ ศิลปินแบบฉาบฉวยจะค่อยๆ หมดไป และศิลปินที่เล่นสดได้ดี มีฐานแฟนเพลงแน่นก็จะได้เปรียบ แต่อีกส่วนนึงที่ผมว่าน่าจับตามองก็คือ ศิลปินหน้าใหม่ก็อาจแจ้งเกิดได้ยากเหมือนกัน