อย่างที่บอกเอาไว้ตอนที่แล้วว่าผมดันไปซื้อหนังสือมาเต็มเลย เล่มแรกอ่านจบไปแล้วคือนิตยสาร Technology Review จากนั้นผมเลยมาอ่าน Baked In เล่มนี้ไอเดียหลักๆ ที่เขาอ้างคือ ฝ่าย Product design กับฝ่ายการตลาดไม่ควรจะอยู่แยกกัน เรียกได้ว่าถ้าอยู่บริษัทเดียวกัน ควรจับมานั่งด้วยกันจะดีมาก แต่สิ่งที่น่าสนใจหลังจากผมอ่านมาครึ่งเล่มแล้วกลับไม่ใช่ทฤษฎีอะไรของเขาหรอกครับ กลับเป็นวิธีการใช้ Twitter ร่วมกับหนังสือของเขามากกว่า
วิธีการของหนังสือ Baked In ก็คือพอจบบทหนึ่ง ก็จะ Summarise รวบยอดทีนึงว่าการที่เราจะ Baked In ผลิตภัณฑ์ของคุณให้มันทำการตลาดได้ด้วยตัวเองเนี่ยจะต้องทำอย่างไร แล้วทิ้งท้ายว่าให้คุณ เข้าไปที่ Twitter แล้วบอกพวกเขาว่าคุณคิดอย่างไรกับบทนั้นๆ โดย คำว่า @bakedin #ชื่อบทที่อ่าน
พูดง่ายๆ ก็คือพ็อกเก็ตบุ๊คหรือนิตยสารเล่มไหนอยากที่จะคุยกับคนอ่านได้แบบสดๆ ทำให้หนังสือมีชีวิตขึ้นมา ก็ทิ้งท้ายไว้ที่ท้ายบทว่า
@ชื่อหนังสือหรือนิตยสาร #สิ่งที่คุณต้องการถามคนอ่าน
คนอ่านที่เป็นกลุ่มคนที่อาจจะใช้ Twitter อยู่แล้วนั้นก็จะเข้ามาบอกว่าอ่านหนังสือคุณแล้ว คิดอย่างไร คุณซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือ หรือนิตยสาร ก็จะรู้ได้ว่าคนอ่านคิดอะไร ชอบหรือไม่ชอบ แถมถ้ามีคนเห็นด้วยกับความเห็นนั้นๆ ก็จะมีคนเข้ามาทำความรู้จักหนังสือหรือนิตยสารของคุณอีก ในทางกลับกัน ถ้าคุณเขียนไม่ดี คนต่อว่าคุณ แล้ว Retweet กันต่อไป คุณก็โดนอ่วมเช่นกัน
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ นายปิงปอง เป็นกองบรรณาธิการของนิตยสาร FHM (ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับทางนิตยสาร FHM Thailand นะครับ) เขียนบรรยายว่าสาวๆ ที่เข้าแข่งขัน Girls Next Door มาถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ตไหนฮอตอย่างไร แต่คุณอาจไม่เคยรู้ว่าคนไหนฮอตสุด คุณอาจเตรียมภาพส่วนหนึ่งของนางแบบเหล่านี้ขึ้นเว็บ twitpic.com เอาไว้ แล้วพิมพ์ http://twitpic.com/110lgq ลงข้างๆ ภาพน้องนางแบบ
เสร็จแล้วคุณก็บอกว่าถ้าคุณผู้อ่านชอบใจใครชอบคนไหนก็ให้ ทวีตว่า @fhm_th #girlsnextdoor1 http://twitpic.com/110lgq คนต่อไปก็เป็น #girlsnextdoor2 http://twitpic.com/110lgq
ทำแบบนี้แล้ว นอกจากจะรู้ว่าคนไหนฮอตถูกใจคนอ่าน แล้วยังรู้ด้วยว่าคนอ่านอยากพูดอะไรกับภาพแต่ละภาพ วิธีนี้อาจจะไปขัดกับพวก SMS Vote แต่ถ้าหากว่ามันมีผลกับ “การบอกต่อ” บน Social Media ผมว่ารายได้จาก SMS อาจเทียบไม่ได้กับ ROI ที่เกิดขึ้นตรงนี้เลยก็ได้ ลองนึกภาพดูว่าหนุ่มๆ ที่ชอบน้องๆ นางแบบจะ Retweet กันกี่รอบ จะส่งต่อเข้าไปใน Facebook อีกกี่ที จะมีคนรวบรวมไปส่งต่อทางอีเมล หรือเอาไปทำสไลด์โชว์ในบล็อกอีกกี่ที เหมือนโฆษณา และทำ R&D ไปในตัว ต่อยอดไปทำ Lucky Draw ก็ได้ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
วิธีนี้ผมว่าทั้งพ็อกเก็ตบุ๊คและนิตยสาร ถ้าอยากจะลอง “Join conversation” กับคนอ่านผมว่าก็ไม่เลวนะครับ