รีวิว Bon Jovi: 2020

Bon Jovi 2020

ทำไมถึงเขียน: โทษฐานเป็นแฟนวงดนตรีรุ่นเก๋ากึ๊กอย่าง Bon Jovi เลยต้องเขียนอะไรออกมาสักหน่อย ไม่งั้นชีวิตจะมีแต่งาน ผมเขียนเพื่อบำบัดต่อม Content Creator ของผมล้วนๆ ไม่มีการสนับสนุนจากค่ายเพลงใดๆ ทั้งสิ้น ผมแค่หวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณฟังเพลงได้สนุกขึ้นเท่านั้นครับ ไม่ใช่บทความวิจารณ์ดนตรีเข้มๆ แบบฟันธงอะไรทั้งสิ้น 😀

เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนไหนที่ฟังแล้วคิดยังไงเกี่ยวกับอัลบั้มนี้ก็แลกเปลี่ยนกันได้ที่ท้ายบทความครับ

เมื่อคืน Bon Jovi ออกอัลบั้มเต็มล่าสุดออกมาแล้วครับ มีชื่อว่า “Bon Jovi: 2020” เป็นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 15 ของวง หลังจากที่ทยอยปล่อย Single อย่าง “Unbroken”, “Limitless”, “American Recokoning” และ “Do What You Can” มาให้แฟนๆ ฟังกันแล้ว

สำหรับน้องๆ รุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จัก Bon Jovi เท่าไหร่นะครับ พวกเขาเป็นวงดนตรีร็อก ที่ค่อนออกมาทางป๊อปเยอะมากๆ ครับ สมัยก่อนพวกคนฟังเพลงร็อกหนักๆ สายแข็งทั้งหลายอย่างพวกแฟนของ Metallica, Guns N’ Roses, Pantera จะเรียก Bon Jovi แบบดูถูกนิดนึงว่า “Rock ไม่แท้” บ้างล่ะ “Rock เอาใจตลาด” หรือ “ไอ้พวก Hair Band” บ้างล่ะ

แต่ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของหลายๆ คน สิ่งหนึ่งที่ Bon Jovi มีในขณะที่วงร็อกวงอื่นไม่ค่อยมีก็คือ การที่เขายังคงได้รับการยอมรับและต้อนรับจากฐานแฟนทั่วโลกอยู่ในปัจจุบัน ในขณะที่วงที่เคยออกมาวิจารณ์เขาตายกันไปหมดแล้ว

ในกรณีนี้เลยเข้าประเด็นคลาสสิกของ Charles Darwin ที่ว่า It is not the strongest of the species that survives, nor the most intelligent that survives. It is the one that is most adaptable to change.

Bon Jovi เป็นวงหนึ่งที่มีการปรับตัวมาหลายเวอร์ชั่นผ่านกระแสดนตรีที่เปลี่ยนแปลงมาตลอดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แล้วยังสามารถออกผลงานใหม่ๆ และเดินสายทัวร์ได้ต่อเนื่อง ผมว่านี่ล่ะตัวจริง ไอ้คนที่วิจารณ์เขาแต่ตัวเองเงียบหายไปซะอีกที่ควรต้องพิจารณาตัวเอง

นอกเรื่องไปซะยาว ขอกลับมาที่ตัวอัลบั้มนะครับ

Bon Jovi: 2020 มีมา 10 เพลงตามมาตรฐาน

Limitless – ร็อก Sound สะอาด มีท่วงทำนองชวนเต้นบวกเสียงผสานในสไตล์แบบ Bon Jovi ที่หลายคนน่าจะคุ้นกันมานานแล้วตั้งแต่ยุค It’s My Life

Do What You Can – เพลงนี้ออกเป็นคันทรี่ร็อกสะอาดๆ แต่ถ้าจะฟังให้สนุกต้องฟังที่เนื้อหาครับ ที่อเมริกาสถานการณ์โรคระบาดอาจจะไม่ได้ดีเท่าไหร่ หลายคนยังอยู่ในช่วงกักตัว Jon Bon Jovi นักร้องนำเขาเลยเขียนเพลงนี้ออกมา เนื้อหาหลักๆ บอกว่า ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ใครที่ทำอะไรที่ตัวเองเคยทำไม่ได้ นาทีนี้อะไรที่คิดว่าพอทำได้ ก็ทำ ช่วยอะไรกันได้ก็ควรทำ

Tonight they’re shutting down the borders
And they boarded up the schools
Small towns are rolling up their sidewalks
One last paycheck coming through
I know you’re feeling kind of nervous
We’re all a little bit confused
Nothing’s the same, this ain’t a game
We gotta make it through
When you can’t do what you do
You do what you can

This ain’t my prayer, it’s just a thought
I’m wanting to send
‘Round here, we bend but don’t break
Down here, we all understand
When you can’t do what you do
You do what you can

เพลงต่อมา

American Reckoning ถ้าจะบอกว่า Bon Jovi เป็นเพื่อชีวิตคงไม่แปลกนะครับ เพราะเขาเขียนเพลงอิงสถานการณ์มาก เนื้อหาของเพลงเป็นเพลงที่พูดถึงการตายของ George Floyd ที่ทำให้เกิด Black Lives Matter movement (แบล็กไลฟส์แมตเทอร์ เป็นขบวนการสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กำเนิดขึ้นในชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกกัน ซึ่งรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงและคตินิยมเชื้อชาติอย่างเป็นระบบต่อคนดำ BLM จัดการประท้วงต่อการฆ่าคนดำของตำรวจอยู่เป็นนิจ)

Beautiful Drug ถ้าปี 2020 ไม่มีสถานการณ์โควิด หรือความวุ่นวายต่างๆ ผมว่าเพลงนี้ Bon Jovi ควรเลือกเพลงนี้เป็นเพลงเปิดอัลบั้ม เพราะทำนองดีมาก ฟังสนุก เสียงผสานติดหูสไตล์ Bon Jovi และมีลูกเล่นทางดนตรีที่เข้าทาง Blues Rock ที่ Bon Jovi ถนัดมากที่สุด นึกภาพว่าเวลาเล่นคอนเสิร์ตน่าจะเป็นเพลงที่เล่นร่วมกับเพลงอื่นได้ลื่นมากๆ

Story of Love ฟังมาถึงเพลงนี้ผมว่าอัลบั้มนี้เน้นเนื้อหาหนักมากๆ หนักกว่านี้อีกนิดจะเข้าแบบ Bob Dylan แล้วนะ 555 เนื้อหาพูดเรื่องนิยามความรัก ฟังดูสอนๆ ชอบกล แต่ก็ดีนะ ฟังแล้วได้แง่คิดดีครับ ผมว่าดนตรีทำได้ดี ผมชอบ Acoustic Guitar เปียโน และไลน์ประสานของเครื่องสายต่างๆ ในเพลงนี้นะครับ ท่อนโซโลกีตาร์ (ที่สมัยนี้มักจะไม่ค่อยมี) ก็เพราะ ใครชอบ Bon Jovi ยุคก่อน 1995 น่าจะชอบเพลงนี้ครับ เป็นเพลงเอาใจแฟนเก่า

Let it Rain – เนื้อหาชวนให้ปลงชีวิตมากครับ Let it rain, let it rain. Let the rain fall all around. Who’s gonna stop the rain from falling?

Lower the flag – เพลงโฟล์กที่เล่าเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ได้เศร้าสร้อยดีครับ เห็นภาพ

Blood in the water – เพลงนี้ก็เล่าสถานการณ์โควิด-19 ในมุมมองความหวาดกลัวของผู้คน แต่โดดเด่นกว่าเพลงอื่นๆ ในแง่ดนตรีที่ทำออกมาค่อนข้างเหงาและเศร้าสร้อยแต่ฟอร์มใหญ่ ทำให้ผมนึกย้อนถึงเพลงเก่าๆ ของวงอย่าง Dry County เพลงนี้เพราะครับ น่าโปรโมทเป็นพิเศษ

Brothers in arms กลับมาคึกคักอีกครั้งในบีทที่ขยับแข้งขยับขาได้หน่อยแต่เนื้อหาออกแนวการใช้ชีวิตเหมือนเดิม

Unbroken เพลงนี้เป็น Single ที่โปรโมทออกไปก่อนหน้านี้แล้ว เนื้อหาในเพลงนี้เล่าถึงชีวิตของทหารผ่านศึกหลังจากที่ที่กลับมาจากสงครามแล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง เช่น ความพิกลพิการ ความหดหู่ทางจิตใจ ฝันร้ายที่หลอกหลอนอยู่ทุกคืนวัน

สรุปในภาพรวมผมว่า Bon Jovi ให้น้ำหนักกับเนื้อหากับสถานการณ์บ้านเมืองปี 2020 ค่อนข้างมากในบริบทของสังคมอเมริกัน ซึ่งจะว่าไปผมไม่ค่อยเห็นเนื้อหาแบบนี้เท่าไหร่กับเพลงไทยนะครับ ในแง่ดนตรีอาจจะไม่ได้มีเพลงโจ๊ะๆ แบบ Because We Can, It’s My Life (รวมทั้งเพลงดังๆ ยุค 80 อะไรที่แฟนเก่าเคยฟังกันมาก่อนหน้านี้) มากนัก เพลงออกจะโฟล์กร็อกเยอะ

วิธีการเสพเพลงของ Bon Jovi ในอัลบั้มนี้อาจจะต่างจากอัลบั้มอื่นตรงที่ผมแนะนำให้อ่านเนื้อเพลงอย่างละเอียด เพราะมันมีท่อนคมๆ ปลายประโยคเยอะ พอเข้าใจแล้วก็ค่อยๆ ละเลียดฟังส่วนดนตรีไปทุกๆ เพลงจะทำให้คุณฟังแล้วอิ่มได้ในที่สุด

ประมาณนี้ครับ

หมวดหมู่music

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

%d bloggers like this: