ธุรกิจดนตรี เอาไงดีเนี่ย?

ช่วงปีที่ผ่านมาเราจะเริ่มเห็นว่าค่ายเพลงไทยเริ่มหันมาขายเพลงผ่านการดาวน์โหลดเข้า device ชนิดต่างๆ เหมือนเมืองนอกอย่างเต็มสูบ ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้บริโภคอย่างหนึ่งคือ จากเดิมเคยซื้อเพลงทั้งอัลบั้ม ก็เปลี่ยนมาเป็นซื้อกันเป็นเพลงๆ ไป ศิลปินแต่ละรายถ้าไม่ดังจริง อาจไม่ได้ออกอัลบั้ม ออกแค่ซิงเกิลดูกระแสไปก่อน ถ้าหากว่าดีค่อยออกเป็นอัลบั้มต่อไป

อันนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ที่ผมเขียนขึ้นมาวันนี้ก็เพียงแค่จะอัพเดททั่วๆ ไปว่า ตอนนี้ธุรกิจเพลงกำลังเปลี่ยนแปลง “วิธีการ Delivery” เพลง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของค่ายเพลง จำเป็นต้องหันมาทำกันแบบดิจิตอลมากขึ้น ระยะนี้เห็นเน้นขายผ่านการดาวน์โหลด *123 ไม่ก็ดาวน์โหลดผ่านเว็บตัดบัตรเครดิต, บัตรเดบิต, Cash card, บิลโทรศัพท์ และสุดท้ายค่อยเป็นการขายซีดี  จากนั้นก็ต่อยอดไปพวกเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์คาราโอเกะ ไม่ก็เปลี่ยนโมเดลเป็นการหาเงินจากสปอนเซอร์แทน อย่างปีก่อนๆ เราจะเห็นค่าย True จ่ายให้ บอย โกสิยพงษ์, โอม ชาตรี

ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร? ในมุมมองผมคือ ค่ายเพลงจะมีบทบาทลดลง โมเดลเดิมใช้ไม่ได้ รายได้ที่เคยได้จากเทปและซีดีมากกว่า 90% หดหายไป ส่วนดาวน์โหลด และการแสดงสดทำรายได้แค่ 10-20% (คร่าวๆ นะครับ) นอกจากนี้ศิลปินยังเริ่มมา “ทำเอง” มากขึ้น ถ้าลองสังเกตบนปกซีดีตอนนี้ จะเห็นว่าศิลปินหลายคนเริ่มไม่ต่อสัญญาค่ายเพลง (อาจจะเพราะค่ายก็ไม่อยากต่อ หรือศิลปินไม่อยากต่อ อันนี้แล้วแต่) และออกมาเปิดค่ายเพลงเล็กๆ ซัพพอร์ตตัวเองมากขึ้น อย่างล่าสุดผมเห็นอัลบั้มใหม่ของคุณโก้ มิสเตอร์แซ็กแมน ก็ทำค่าย Chilling Groove แล้ว Outsource การจัดจำหน่ายให้บริษัทจัดจำหน่ายอย่าง Platinum ไป

ดังนั้นในช่วงนี้ถ้าถามว่าแนวโน้มธุรกิจน่าจะเป็นอะไร ก็น่าจะเป็น Music marketing อย่างเช่นที่ผมเคยเขียนไปเกี่ยวกับโมเดลการทำงานร่วมกับศิลปินของ Topspin Media เมื่อเกือบสองปีที่แล้วนี่เป็นโมเดลนึง อีกแบบนึง อันนี้ผมคิดเล่นๆ แต่ก็น่าจะเป็นไปได้ นั่นก็คือ ค่ายอาจลองให้ทุนศิลปินไปเปิดค่ายเล็กๆ ของตัวเอง เน้นออกคอนเสิร์ตบ่อยๆ ไม่ต้องขายซีดี คือค่ายเพลงเป็นนายทุนเหมือนเดิม แต่ว่าการแบ่งรายได้จะไม่ใช่แบบค่ายได้ 95% ศิลปินไม่ถึง 5% แต่ว่าศิลปินค่ายเล็กนั้นๆ จะต้องให้สิทธิ์ในการขายดาวน์โหลดกับค่ายเพลง ซึ่งถือเป็นช่องทางในการทำรายได้ที่ชัดเจน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมตามข่าวดูตอนนี้เมืองนอกกำลังทดลองกันกับ Vevo.com เว็บไซต์มิวสิควิดีโอซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างค่าย โซนี่, ยูนิเวอร์ซัล, อะบูดาบี มีเดีย โฮสต์ (ไม่ค่อยแน่ใจว่า EMI ด้วยหรือเปล่า) โดย Youtube จะโฮสต์คอนเทนท์ให้ ส่วนรายได้ก็มาจากโฆษณาก็แบ่งกับ Google ไป ตอนนี้ยังดูใน Vevo.com ตรงๆ ไม่ได้ครับ ยังไม่เปิดให้บริการเมืองไทย แต่ว่าดู Vevo Channel ใน Youtube ได้ครับ

– – – – –

ท้ายสุดนี้ขอแอบเชียร์ศิลปินในดวงใจหน่อย ถ้าอยากให้ Bodyslam ทำผลงานดีๆ ออกมาให้เราฟังกัน ช่วยกันดาวน์โหลดอย่างถูกกฏหมายด้วยนะครับ 🙂