ความหลังกับร้านขายเคส

เมื่อวานผมไปเดินเล่นเมเจอร์รัชโยธินเจอร้านขายเคสมือถือ ทำให้นึกถึงความหลังครับ 🙂 บล็อกตอนนี้เป็นเรื่องการโหยหาอดีตสมัยทำงาน Samsung นะครับ

ปี 2010 ผมกลับมาเมืองไทยแบบไม่ค่อยมีผลงานสักเท่าไหร่ แต่ก็มีแบรนด์มือถือแบรนด์นี้ (ที่คุณเห็นในภาพข้างๆ เลข 100 บาทนั่นแหละ) หยิบยื่นโอกาสทางการงานให้

วันแรกๆ ที่เข้าไป ผมทำงานด้วยความมึนงง เดินตรวจตลาดทีไรที่ไหนคนไทยก็ใช้แต่ iPhone จำได้เลยว่าไอ้ร้านขายเคสอย่างที่คุณเห็นในภาพพากันขายแต่เคส iPhone… วงสนทนาบนโต๊ะอาหารทุกคนพูดถึงแต่ iPhone…

คนใช้ Samsung และ Android ต่างๆ เป็นเพียงคนส่วนน้อยที่ถูกมองว่าเป็นพวก nerd พวก geek ที่คุยกับใครไม่รู้เรื่อง

พูดง่ายๆ ว่านาทีนั้นแค่คิดจะแข่งกับเขาเราก็ผิดแล้ว เพราะ popularity มันเทียบกันไม่ได้เลย

ตอนนั้นบอกตรงๆ น้อยใจครับ แต่อย่างหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากแบรนด์นี้ก็คือ พวกเขาไม่เคยกลัวคู่แข่งเลยครับ ทุกคนทำงานเป็นทีม… as a team… with spirit ถ้าจะนิยามก็คือ “สู้ยิบตา” ไม่เคยกลัวแพ้ และคิดกันว่า ยังไงพวกเราต้องทำได้ เราไม่กลัว เราทำของที่ดีให้ consumer ได้ และเราจะสู้ไม่ถอย

วันเวลาผ่านไป นับจาก S1, S2, S3, S4, S5, S6, S7, และ S8 (ที่กำลังจะมาถึง) Note 1 Note2 Note 3 Note 4 Note 5 (Note 7 ที่ ‘สะดุด’ ) Samsung ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม คนถามหามือถือ Samsung มากมาย

วันนี้ “Samsung” ไม่ใช่แบรนด์รองบ่อนอีกแล้ว และพวกเขายืนยันที่จะเป็นแบรนด์ในใจของคนรักเทคโนโลยีอยู่เช่นเดิม พวกเขาขยายศูนย์บริการ เพิ่มความพรีเมียมในวัสดุ ดูแล customer experience แบบไม่ลดละ

แม้วันนี้ผมไม่ได้ร่วมงานกับเพื่อนๆ ที่รักเหมือนเคย ได้แต่เชียร์อยู่ห่างๆ แต่พอเดินมาเจอร้านขายเคสร้านเดิมที่ผมเคยน้อยใจ บอกได้เลยว่า

ไม่น้อยใจแล้วครับ 🙂